12/6/53

จาก พระธาตุอินทร์แขวน -ไป ตองอู ( ต่อ )

เราแวะกินข้าวกลางวันกันข้างทางที่ร้านอาหารในอำเภอใหญ่แห่งหนึ่ง ผู้คนดูจะให้ความสนใจกับเราสองคนเป็นพิเศษ เชื่อไหมว่า เขาคิดว่าแม่บุญเป็นไกด์พาฝรั่งไปเที่ยว หน้าตาเข้าตากรรมการจริง ๆ ถูกทักเป็นสาวพม่าตั้งแต่ไปไหว้พระธาตุ มาวันนี้อีก ไซอธิบายให้เราทั้งคู่ฟังพร้อมแอบหลิ่วตาล้อแม่บุญ แต่แหม่..ไหน ๆ ก็หน้าคล้ายพม่าแต่เวลาจ่ายตังค์ ไหงคิดราคาต่างชาติก็ไม่รู้ ??


เราออกเดินทางต่อ ไม่บอกก็คงรู้เนาะว่าเราสองคนกินข้าวผัดใส่วิญญานไก่ ก็มันไม่มีอะไรที่ง่ายและสะอาดมากไปกว่านี้แล้ว บ่ายแก่ ๆ คณะเราก็มาถึงโรงแรมที่ตองอู ทีแรกมิเชลอ่านเจอในหนังสือเกี่ยวกับโฮมสเตย์ที่อยู่นอกเมืองออกไปไม่ไกล แต่พอไปเห็นแล้วเราก็ต้องเปลี่ยนใจเพราะอยู่ในสวน ยุงชุมเหลือใจ แค่ไปเดินดูยังบินเกาะกันมากมาย ตกลงไซก็พาไปพักที่โรงแรมเล็กๆ ที่บริษัทจองไว้ให้แล้ว


บ้านสองชั้นข้างหน้าเราสองคน เหมือนบ้านที่ต่างจังหวัดในเมืองไทยไม่มีผิด มีห้องพักสี่ห้องๆ ที่เราพักอยู่ชั้นสอง พื้นกระดานไม้มันเป็นเงา ห้องนอนกว้าง เตียงสะอาด ห้องน้ำพอใช้ได้ เราพักแค่คืนเดียว แล้วจะกลับมาพักอีกครั้งตอนกลับ ยังพอมีเวลา ล้างมือล้างไม้เสร็จก็เลยคิดจะเข้าไปดูในตัวเมืองเสียหน่อย เราเรียกรถถีบคล้ายจักรยานแต่ด้านข้างและด้านหลังมีที่นั่ง แปลกและเก๋ดีขอลองเสียหน่อย เราสองคนถูกมองตลอดทาง จนไปถึงตลาด...



เพราะบ่ายคล้อยมาก พ่อค้าแม่ค้าเขาเริ่มเก็บข้าวของเตรียมกลับกันแล้ว พอเราสองคนไปถึงคนก็มองเหมือนมีดาราฮอลิวู้ดมาเดินตลาดก็ไม่ปาน ยิ่งตอนขอถ่ายรูปดูจะให้ความร่วมมือกันดี เพราะยิ้มกันหน้าบานไม่หุบ โดยเฉพาะมิเชลที่พวกชาวบ้านจะชอบกันเป็นพิเศษ คงเพราะหน้าตาแกใจดี เลยมีแต่คนชอบ เราเดินดูตลาดจนทั่วก็ออกมาขึ้นรถสามล้อกลับโรงแรม เผอิญเห็นเขาขายโรตีข้างทางเลยให้คนถีบสามล้อไปเจรจาซื้อมาได้สองชิ้น รสชาติไม่เลว กินไปชมวิวไปมีความสุขเสียจริง



ถ้าพอจะจำกันได้เมืองตองอูนี้มีประวัติ เมื่อครั้งไทยและพม่าทำสงครามกัน เราจะคุ้นเคยกับเมืองตองอูเป็นพิเศษ ไม่นึกไม่ฝันเหมือนกันว่าจะได้มาเห็น เปิดดูในอินเทอร์เน็ตเขาว่า

  " ในรัชสมัยของพระเจ้าบุเรงนอง ได้แผ่อาณาเขตของอาณาจักรตองอู หงสาวดี ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยครอบคลุมตั้งแต่ลุ่มน้ำอิระวดี ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ไปจรดถึงลุ่มแม่น้ำโขงในลาว มีเมืองเป็นประเทศราชต่าง ๆ มากมายไม่นับในอดีต เช่น เชียงใหม่, ฉาน, อยุธยา, ล้านช้าง, กัมพุช เป็นต้น จนได้การขนานพระนามว่าเป็น "พระเจ้าชนะสิบทิศ" "

นี่คือเรื่องราวเพียงเล็กน้อยเรื่องของเมืองตองอู แม่บุญห่างหายจากประวัติศาสตร์มานาน เอาเป็นว่าใครอยากรู้เรื่องละเอียดก็หาดูกันตามอินเทอร์เน็ต ส่วนแม่บุญจะพาเที่ยวตามที่เห็นด้วยตาของตัวเองในตอนนี้เท่านั้นจ้า

อาหารเย็นจำไม่ได้ว่ากินอะไร รู้แต่ว่าอย่าไปหวังอะไรมากกับเมืองในต่างจังหวัดกินให้พออิ่มท้องก็พอ และไม่ท้องเสียเท่านั้นเอง คืนนั้นเราสองคนอาบน้ำ สระผมเอาสีแดงออกเสียหน่อย แล้วก็หลับกันยันเช้าเพราะความเหนื่อยที่นั่งรถนาน...หารู้ไม่ว่าพรุ่งนี้หนักกว่าเดิม

1 ความคิดเห็น: