14/5/53

เที่ยวพม่า 3

๒๐ มกราคม ๒๕๕๒

ตื่นกันแปดโมงกว่า อาบน้ำเสร็จก็ไปหาข้าวเช้ากินที่ห้องอาหารของโรงแรมข้าง ๆ ห้องพักนั่นแหละ เขามีกล้วยลูกโตมาก ๆ เสริฟ พร้อมกาแฟ ขนมปังปิ้ง เนย แยม ไข่ดาว แล้วแต่จะสั่ง พอกินได้น่ะไม่เสียหลายซะทีเดียว ขอแผนที่เมืองย่างกุ้ง แล้วก็ออกเดินไปขึ้นรถเมล์ เพราะยังพอมีค่ารถเหลือจากเมื่อวาน เช้าวันนี้ดูจะจอแจกว่าเมื่อวานตอนค่ำ เพราะทุกคนต่างไปทำงาน เด็ก ๆ ไปโรงเรียน คนพม่านี่น่ารักจริง ผู้ชายใส่เสื้อแล้วใส่ลองยี ยาวถึงตาตุ่ม ลวดลายสีสรรแล้วแต่ชอบ ในมือไม่ว่าเด็ก ผู้ใหญ่ หญิงชาย ต่างถือปิ่นโตใส่อาหารเพื่อไปกินตอนกลางวันกันแทบทุกคน ถาพแบบนี้หายไปจากบ้านเมืองไทยเรานานหลายสิบปีแล้ว จำได้ว่าแม่บุญเองก็เคยมีปิ่นโตแบบนี้ ต่อมาเป็นกล่องพลาสติก และต่อมาก็ซื้อกินที่โรงเรียนเพราะสะดวกดี ..

เราเดินมาจนถึงใจกลางเมือง มองเห็นเจดีย์อยู่กลางเมืองเล็ง ๆ ไว้ว่าจะเข้าไปดู เอาไว้แลกเงินก่อน เดินกันรอบ ๆ สักพักก็เห็นตลาดสก็อต ข้ามสะพานลอยไปอีกหน่อย ยังไม่ทันถึงก็มีเด็กผู้ชายเดินมาถามว่าจะแลกเงินไหม ? แม่บุญทำเป็นยักท่าเดินไปถามไปว่าให้เท่าไหร่ ราวกับผู้เชี่ยวชาญก็ไม่ปาน เด็กนั่นไม่ตอบแต่ให้เดินตามไปจนถึงร้านค้าในตัวตลาด จากนั้นก็มีผู้ชายมาถามว่าจะเอาเงินอะไรมาแลก ยุโร ดอลล่าร์หรือว่าเงินบาท แม่บุญบอกว่ามีแต่ดอลล่าร์ เขาให้ ๘๐๐ จ๊าตต่อ ๑ ดอลล่าร์ ถ้าเป็นเงินไทย ๒๙ จ๊าตต่อหนึ่งบาท
แม่บุญต่อได้ ๙๐๐ ต่อดอลล่าร์ กับ ๓๐ ต่อบาท ตกลงเราเลยแลกกันตามนั้น

แลกเงินกันหนักกระเป๋าแล้ว ก็เดินออกดูรอบ ๆ บริเวณที่เป็นร้านขายของที่ระลึกเหมือนแถบปประตูน้ำบ้านเรา หน้าตลาดมีแม่ค้า พ่อค้ามานั่งขายผัก ขายปลา ขายของกินเหมือนบ้านเรา แม่บุญยังเห็นเขาใส่เส้นมะละกอ พริก มะนาว ใส่กล่องโฟม ห่อด้วยพลาสติกใส ถามได้ความว่าเป็นสลัด ก็ส้มตำพี่ไทยนั่นแหละ ก่อนหน้านี้เราคุยกันว่าจะลองไปถามราคาตั๋วเครื่องบินเพื่อจะบินไปเมืองบากาน มัณฑะเลย พอดีเด็กที่พาเราไปแลกเงินซึ่งเดินตามเรามาตลอดทางบอกว่าจะพาไปหาให้ตามมา

ข้ามสะพานลอยไปฝั่งตรงข้าม เป็นที่ตั้งของโรงแรมใหญ่ใจกลางเมือง ชื่อ Central Hotel ในโรงแรมมีเคาร์เตอร์บริษัททัวร์ตั้งอยู่ด้วย เราสองคนเดินไปถามราคาค่าตั๋ว พนักงานถามเราว่าเรามีเวลาเที่ยวพม่ากันกี่วัน พอเราบอกไปเขาก็เสนอมาว่า มีอะไรที่ดีกว่าการนั่งเครื่องบินโดยไม่ได้เห็นวิวสวย ๆ ของพม่าที่ยังมีอยู่ มิเชลหูผึ่งทันที เขาเสนอให้เราเช่ารถ มีคนขับซึ่งทำหน้าที่ไกด์พร้อมกัน พร้อมเสนอที่พัก อาหารเช้ารวมด้วย ในราคาคนละ ๕๕๐ ยูเอสดอลล่าร์ ต่อคน เขาให้โจทย์มาให้เราคิดดีแท้

มิเชลคิดไม่นานก็บอกให้แม่บุญตกลงเพราะเราทั้งคู่ไม่รู้จักพม่าเลย อีกอย่างมิเชลไม่สามารถเดินตะลอนทั้งวันเหมือนเมื่อก่อนได้เพราะเจ็บเท้าที่ผ่าตัด และเราจะไปไหน เมื่อไหร่ก็ตามใจเราเพราะเราเช่าเขาเหมารวมหมดแล้ว เงินที่แลกมาถูกนำมานับแล้วนับอีกเพราะเรามีรวมกันหลายแสนจ๊าต พอจ่ายหมดเราก็ไม่เหลือเงินที่จะใช้ในระหว่างเดินทาง ตอนนี้แม่บุญต้องการเงินเพิ่มแต่ไม่มีที่ไหนให้กดเงินได้นอกจากจะต้องไปที่โรงแรมที่รัฐบาลทหารของพม่าเป็นเจ้าของและรูดเงินจากบัตรเครดิตที่นั่นเท่านั้น

ผู้จัดการบริษัททัวร์อำนวยความสะดวกจัดหาแท็กซี่ให้เราไปที่โรงแรมพร้อมไปส่งที่ ๆ เราอยากจะไปอีก ตกลงเราเลยไปโรงแรมนั้น ระยะทางไกลมากเป็นโรงแรมสี่ดาวของรัฐบาลทหารของพม่า แม่บุญไปติดต่อที่รีเชฟชั่นบอกว่าจะมาขอรูดเงินจากบัตรเครดิต เขาบอกให้รอเพราะคอมฯ ใช้ไม่ได้ไม่มีไฟ อ้าว..อีกสักยี่สิบนาทีเธอบอกว่าใช้ได้แล้ว โล่งอกไปที แม่บุญขอรูด ๓๐๐ ดอลล่าร์ ถูกคิดค่าบริการเพิ่มอีก ๒๓ ดอลล่าร์ อ้อยเข้าปากช้างอีกตามเคย ใครจะไปเที่ยวเผื่อเงินไปหน่อยก็ดี อย่าคิดไปตายเอาดาบหน้าเหมือนแม่บุญ เพราะตายสนิทจริง ๆ .....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น