24/6/53

ทำบุญบ้านกับชาวบ้านพม่า 2

เครื่องปรุงที่เห็นมีเพียงเกลือกับถั่วเน่า รสเปรี้ยวได้จากมะเขือเทศที่ใส่กันแบบไม่ยั้งมือ เหมือนที่แม่บุญได้ยินแม่พูดบ่อย ๆ ว่าทำกับข้างต้องให้ถึงเครื่องไม่งั้นไม่อร่อย ... จำกันไว้นะ เสร็จจากการเตรียมอาหาร พระท่านมาพอดี เขาเลยมาเชิญเราทั้งคู่ไปฟังพระสวดบนบ้าน


บ้านไม้หลังเล็กใต้ถุนสูง มีบันไดสี่ห้าขั้น จากนั้นเป็นห้องโถงกว้าง รอบ ๆ มีตู้ไม้ไว้ใส่ข้าวของต่าง ๆ มีเครื่องบูชาพระ บูชาผีบ้านผีเรือน รอบ ๆ ผนังเป็นไม้ขัดฝาโปร่งผสมไม้ไผ่ ติดรูปดาราคนโปรด พร้อมปฏิทินติดไว้หลายแบบ มองไปทางไหนก็ไม่เห็นความแตกต่างกับบ้านทางภาคอิสานของไทยสมัยก่อนเลย ตอนเป็นเด็กไปเยี่ยมยาย ๆ ก็มีบ้านแบบนี้เหมือนกัน จะมีเพิ่มก็ชานเรือนที่ใช้เลี้ยงตัวไหมไว้ทอผ้าไหม และผ้าผ้ายไว้นุ่งเท่านั้นเอง



                                                            พระกำลังทำพิธีสวดมนต์

แม่บุญเลือกนั่งตรงมุมที่จะสามารถมองเห็นกิจกรรมทุกอย่างได้หมด ชาวบ้านที่มามองมาที่แม่บุญแล้วบอกว่าหน้าเหมือนชาวพม่า...นั่นสินะ ที่พระธาตุอินทร์แขวนหลาย ๆ คนเข้าใจผิดมาแล้ว ตอนไปอินเดียก็ว่าหน้าเหมือนคนอินเดีย เหมือนคนฮ่องกง สิงคโปร์ อินเตอร์ฯ ซะไม่มี บอกว่าเป็นคนอิสานกลับไม่มีใครเชื่อ ..น่าจะมีเชื้ออื่นปน ๆ นะ ..ว่ากันไป

พูดถึงชื่อของชาวพม่านี่ก็แปลก ๆ อย่างเด็ก ๆ เขาจะตั้งชื่อ เช่น มูมู มิมี่ แยะแยะ ฯลฯ ชื่อซ้ำกันสองพยางค์แบบนี้ ฟังดูตลกดี



                                         หนูน้อยเสื้อเขียวชื่อ มิมี่ เหมือนชื่อเล่นมิเชล เลย


แม่บุญตั้งอกตั้งใจฟังพระสวดเป็นพิเศษเพราะอยากรู้ว่าท่านสวดเป็นภาษาบาลี สันสฤตเหมือนพระไทยหรือเปล่า ??? ใช่เลย เหมือนกัน แต่สวดทำนองต่างกันเท่านั้น แม่บุญเองชอบทำบุญ ไหว้พระสวดมนต์เหมือนกัน พอท่านสวดเลยพูดตามได้ เล่นเอาชาวบ้านมองกันแบบแปลกใจ พอพระสวดเสร็จถามแม่บุญกันใหญ่ว่า..สวดได้ด้วยหรือ ?? แหม๋..จะว่าคุย สวดได้สิ แต่ก่อนมาเบลเยี่ยมใหม่ ๆ สามีไปทำงาน นั่งสมาธิ สวดมนต์แทบทุกวัน ไม่งั้นไม่รอด..เพราะต้องปรับตัว ปรับใจ ธรรมะ..เหนือกว่าสิ่งอื่นใด ใครจะทำแบบแม่บุญได้เลย




                                          ภายในบ้านหลังน้อยที่เราได้แวะไปร่วมทำบุญ

ลืมเล่าไปว่า เวลาพระท่านสวดบางครั้งท่านจะเปลี่ยนเป็นท่านั่งยอง ๆ เหมือนหลวงพ่อคูณ ที่โคราชเลย บางครั้งก็นั่งธรรมดา สงสารมิเชลนั่งพับขาไม่เป็น แถมไม้กระดานแข็ง ๆ ไม่มีเบาะรองอีกต่างหาก งานนี้แกได้บุญไปเยอะ ถ้าไม่มีบุญเก่าทางพุทธศาสนาแกคงทำไม่ได้หรอก วันดีคืนดี แกก็พูด อรหัง สัมมาสัมพุทธัสสะ ..อยู่คนดียว..ถามว่าพูดทำไม แกบอก คิดถึงหลวงพ่อที่วัดไทยธรรมาราม..เอากับแกสิ

แล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึง ..อาหารแปลก ๆ มากมายวางอยู่ข้างหน้า รอให้ชิมและกินแบบไม่อั้นตามคำเชิญของเจ้าของบ้าน งานนี้ขาด เลอะเพ็ตโต๊ะ ยำสารพัดถั่วกับใบชาไม่ได้ ลองกินแล้วอร่อยทีเดียว แม่บุญเลือกกินปลาทอด และแกงที่ทำจากปลาตากจนแห้ง รสชาติคล้ายแกงเผ็ด น้ำมันเยอะจัง..ส่วนมิเชลกินแกงที่ทำจากเนื้ออะไรไม่รู้เพราะไม่ได้กินด้วย จานอื่น ๆ เราชิมนิด ๆ หน่อย ๆ เพราะไม่คุ้นเคย ตบท้ายด้วยของหวาน ผลไม้ และชาร้อน..แบบพม่า


กินเสร็จปาเข้าไปเกือบบ่ายสอง ระยะทางที่จะไปเที่ยวอีกตั้งสิบกว่ากิโลเมตร ตกลงเลยร่ำลาเจ้าของบ้านและทุก ๆ คนที่ใจดีให้เราได้มีโอกาสร่วมทำบุญด้วย ก่อนกลับเราสัญญาว่าจะกลับมาเยี่ยมอีกครั้ง คราวนี้ได้ถีบจักรยานกับท้องที่หนักอึ้งด้วยอาหารไปที่หมู่บ้านไกลออกไป ....

6 ความคิดเห็น:

  1. อ่านเรื่องเที่ยวพม่ากันดีกว่า

    ตอบลบ
  2. น่าไปจริงๆ สวยมากเลย มปลอดภัยใช่ไหมจ๊ะ ถ้าดูตามรูปแล้วดูสงบดีมากเลย
    น้องกุ้งเห็นนํ้าลายยืดแน่ๆเลย

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ28/6/53 11:59

    น้ำลายยืดโดนหมาบ้ากัดหรือว่าน้องผู้หิวโหย แบบไหนเหมาะกับหนูคะพี่ๆๆ
    อ่านตอนนี้สนุกมาก โดยเฉพาะตอนที่พี่ไก่เล่าถึงคุณมิเชล สาธุหลวงพ่อ
    กุ้งกับซิกฟริด ย้ายมาอยู่แถวนี้แล้ว ใกล้กับพม่า เราคงได้เที่ยวตามรอยแม่บุญสักครั้ง
    แค่ก่อนอื่น ขอไปแอ่วทางเหนือบ้านพี่สาวใจดี ก่อนเน้อเจ้า อีน้องกินเก่งหลาย ยินดีต้อนรับหรือต้อนกลับคะ?

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ29/6/53 07:37

    อ่านแล้วเพลินดี มีภาพประกอบดีด้วย เป็นการถ่ายทอดบรรยากาศการท่องเที่ยวที่ดีมากๆ ทำให้อยากไปแล้วซิ..จิว

    ตอบลบ
  5. ถ้ายังไม่ได้ไป รีบ ๆ ตัดสินใจขอวีซ่าเลย ช้า ๆ เขาปิดประเทศอีกจะไปยาก คนที่นั่นใจดี น่ารัก ช่วยเหลือดีแม้จะพูดกันไม่เข้าใจในบางครั้ง

    แม่บุญ

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ3/7/54 22:57

    อยากเที่ยวพม่าจัง

    ตอบลบ