24/6/53

เที่ยวหมู่บ้านกลางทะเลสาบอินเลอีกครั้ง

ถนนหนทางค่อนข้างขุระขระ หลบหลุมกันแบบจักรยานวิบากก็ไม่ปาน บางครั้งมีรถสวนทางมาต้องลงเดินเพราะฝุ่นฟุ้งไปหมด กว่าจะไปถึงอาหารที่กินมาก็ย่อยหมดพอดี เราไปถึงทางแยกเข้าหมู่บ้าน แต่เราเลี้ยวออกไปด้านที่มีสะพานข้ามไปหมู่บ้านในทะเลสาบ แต่ต้องจอดจักรยานฝากไว้กับร้านขายของชำ แล้วเดินต่อเข้าไป สะพานยาวสุดสายตาที่เห็นจะไปสิ้นสุดที่ไหนหนอ ??? สีน้ำกับฟ้าไม่แตกต่างกันเลย มิเชลเหนื่อยเพราะแดดร้อนมาก เลยขอนั่งพักที่ศาลาริมน้ำ ลมพัดเย็นสบายจนแกขอนอนแทน




                                        สะพานที่ทอดยาวสุดสายตาไปที่หมู่บ้านกลางน้ำ

แม่บุญขอเดินไปให้สุดสะพานเพราะอยากรู้ว่าที่สุดแล้วจะไปถึงไหน เดินไปจนสุดสะพานจริง ๆ คราวนี้ต้องหยุด เพราะหมู่บ้านเล็ก ๆ ข้างหน้าใช้เรือในการสัญจร ไม่นานก็มีเด็กผู้ชายอายุไม่เกินสิบห้า ถามแม่บุญว่าอยากนั่งเรือเที่ยวรอบ ๆ หมู่บ้านไหม เขายินดีพายเรือให้ เพียงแต่ให้ค่าบริการนิดหน่อย ฟังแล้วก็ใจอ่อนไปก็ไป มองกลับไปที่ศาลาไกลลิบ ๆ มิเชลคงยังนอนอยู่..ไปนั่งเรือเที่ยวดีกว่า



                                              เป็นครั้งแรกที่เห็นผู้หญิงพายเรือที่นั่น

มองดูวิธีการพายเรือด้วยเท้าแล้วก็อดทึ่งไม่ได้ ฟังเสียงไม้พายตวัดผ่านน้ำไปมาช่างเพราะเสียจริง เรือลอยลำไปช้า ๆ เหมือนจะให้แม่บุญได้เก็บภาพต่าง ๆ ไว้ในความทรงจำให้มากที่สุด ตอนเรือผ่านไปตามบ้านต่าง ๆ เด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ กำลังอาบน้ำ เขาอายแม่บุญรีบใส่เสื้อ แต่ใส่ลองจีผืนเล็กไม่ทัน เด็กน้อยรีบนั่งลงบนกาบเรือแล้วเอาผ้ามาคลุมตักไว้ แม่บุญอดถ่ายรูปน่ารักนี้ไว้ไม่ได้ ได้แต่หัวเราะหึ ๆ คนเดียว เด็กหนอเด็ก ช่างไร้เดียงสาเสียจริง


                                                   เด็กน้อยพายเรือเป็นตั้งแต่เด็ก


ภาพถัดมาเป็นภาพด้านหลังผู้ชายคนหนึ่ง ที่กำลังใช้เท้าพายเรือไปข้างหน้า ภายในเรือมีต้นหญ้ามากมาย สงสัยจะเอาไปมัดทำเป็นสวนกลางน้ำแน่ ๆ ยังมีภาพคุณยายนั่งอยู่ริมหน้าต่างมองคนแปลกหน้าอย่างแม่บุญแล้วยิ้มให้ อีกหน้าต่างหนึ่ง ..เด็กเล็ก ๆ สามสี่คนแย่งกันยื่นหน้าออกจากหน้าต่างยิ้มและโบกมือให้ ภาพบ้านทำด้วยไม้ไผ่กลางน้ำ ฯลฯ
หาแบบนี้ที่ไหนไม่ได้แล้ว แม่บุญถ่ายรูปอย่างลืมตัว ลืมเวลา จนหนุ่มน้อยบอกว่าจะไปส่งที่ศาลานั่นแหละถึงนึกได้ว่ามิเชลคงตื่นแล้ว


สัญญลักษณ์ของทะเลสาบอินเล




มิงกะลาบา





                                                      บ้านน้อยกลางน้ำ


ระหว่างทางเห็นเรือโดยสารที่บรรทุกชาวอินทากลับจากงานมาขึ้นที่ท่าเรือใกล้ ๆ แม่บุญให้ค่าเหนื่อยเด็กหนุ่มแล้วขอบคุณที่เขาพามาดูสิ่งสวยงาม เขาได้แต่ยิ้มและพายเรือจากไป แม่บุญรีบเล่าให้มิเชลฟังว่าไปเจออะไรมา คราวนี้พี่แกอยากไปบ้าง...แต่สายเกินไป เรามองดูนาฬิกา กะเวลาปั่นจักรยานกลับอีก ๑๐ กว่ากิโล ไปถึงโรงแรมค่ำพอดี ได้แต่ปลอบใจกันว่าถ่ายรูปไว้เยอะค่อยดูทีหลังก็แล้วกัน



                                                                       มิเชล...

1 ความคิดเห็น: