27/8/53

มิงกุน พระราชวังมัณฑะเลย์ 2

เจดีย์มิงกุน

             

                   ที่เห็นอยู่ข้างหน้าช่างใหญ่โตเหลือเกิน เจดีย์นี้สร้างโดยพระเจ้าปดุง เริ่มสร้างเมื่อปี พ.ศ ๒๓๓๓ เฉพาะฐานที่ก่อแล้วสูงถึง ๕๐ เมตร โดยกะจะสร้างให้สูงถึง ๑๕๒ เมตร ซึ่งหากสร้างเสร็จจะกลายเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในโลก แต่พระเจ้าปดุงเสด็จสวรรคตก่อนจึงถูกทิ้งร้างไป เอ้าลืมบอกว่าต้องเสียค่าธรรมเนียมกันคนละ ๓ ยูเอสดอลล่าร์ ไซ..จัดการให้เรียบร้อย เราสองคนไม่ได้เข้าไปดูภายในที่ไกด์ทั้งสามอธิบายว่ามีเพียงพระพุทธรูปตั้งไว้ให้บูชาในห้องแคบ ๆ เท่านั้น เราจึงเดินชมแค่ด้านนอก ตรงทางขึ้นจากท่าน้ำมีซากสิงห์ขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้น แต่ไม่เสร็จเช่นกัน เป็นความเชื่อในการสร้างวัดของชาวพม่า ว่าต้องสร้างสิงห์เป็นนายทวารบาลคอยปกป้องรักษาเจดีย์ ส่วนระฆังสร้างเพื่อเป็นเสียงบูชาพระพุทธคุณ



พระประธานข้างในเจดีย์




ระฆังมิงกุน

ระฆังมิงกุน เป็นระฆังขนาดใหญ่มาก เส้นรอบองค์ระฆัง ๑๐ เมตร สูง ๓.๗ เมตร หนัก ๘๗ ตัน หล่อครั้งเดียวเสร็จ นับเป็นระฆังที่สมบูรณ์และยังใช้ได้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่มีที่มอสโคที่ใหญ่กว่านี้แต่ยังหล่อไม่เสร็จ




                                     เจดีย์เซียนผิวเหม่ 

สร้างเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักของพระเจ้าบาคะยีดอ ที่มีต่อพระนางเซียนผิวเหม่ ซึ่งสิ้นพระชนม์ก่อนที่พระองค์จะขึ้นครองเมือง สถานที่นี้จึงได้รับการขนานนามว่า ทัชมาฮาลแห่งลุ่มน้ำอิรวดี



            ตลอดทางตั้งแต่เริ่มต้นเดินชมสถานที่ต่าง ๆ จะมีทั้งเด็ก และผู้หญิงมาขายของที่ระลึกต่าง ๆ เด็กพวกนี้บางคนออกเสียงภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศสได้ดีจนน่าทึ่ง ถามว่าเรียนจากที่ไหน พวกเขาบอกว่าจากนักท่องเที่ยวนั่นแหละ แม้จะพูดได้ไม่มากแต่ก็นับว่าเป็นความฉลาดของเด็ก ๆ ที่เรียนรู้ได้เร็ว นี่หากพวกเขามีโอกาสไปโรงเรียน ๆ หนังสือน่าจะดีกว่านี้



                                                             ร้านขายของที่ระลึก
         อาการท้องเสียเริ่มกลับมาอีก แม่บุญบอกไซ ให้ช่วยหาที่ไหนก็ได้ให้ที พอดีมีบ้านหลังหนึ่งกำลังขึ้นมะพร้าว แม่บุญจำได้ว่าเคยอ่านหนังสือเขาบอกว่าคนที่ท้องเสียมาก ๆ ร่างกายจะขาดน้ำและเกลือแร่ ให้ดื่มน้ำมะพร้าวจะช่วยได้ ร่างกายจะได้รับสารอาหารทำให้ไม่เพลีย ว่าแล้วก็บอกไซขอซื้อมะพร้าวให้ เฉาะกินแต่น้ำ ดื่มได้ยังไม่ทันหมด ก็ต้องวิ่งขอเข้าห้องน้ำอีก เป็นการเที่ยวที่ไม่สนุกและทรมานจริง ๆ ยาก็ไม่มีไม่รู้จะไปซื้อที่ไหน...



บ้านชาวพม่าใกล้



                                                         อีกมุมมองของมิงกุน
 
           เดินกลับมาทางเดิมเพื่อไปขึ้นเรือกลับ มีอันต้องแวะเข้าห้องน้ำซึ่งเป็นที่พักของแม่ชีข้างทางอีกรอบ แทบจะหมดอารมณ์เเที่ยวต่อ แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ต้องเดินหน้า ที่ ๆ เราจะไปดูต่อไปคือ พระราชวังมัณฑะเลย์ อยู่ห่างไกลออกไป พอมาถึงท่าน้ำ ไกด์สองหนุ่มก็เข้ามาหาแม่บุญเพราะคงเห็นแล้วว่าน่าจะพูดง่ายกว่าฝรั่งอย่างมิเชล แม่บุญให้ค่าเสียเวลาไปคนละเท่าไหร่จำไม่ได้ แล้วเขาสองคนก็อยู่ส่งเราสองคนขึ้นเรือกลับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น