21/10/53

Bagan

๒๙ มกราคม ๒๕๕๒

จากมัณฑะเลย์มุ่งหน้าสู่บากาน

         วันนี้ต้องเดินทางไกลกันอีกรอบใช้เวลา ๗ ช.ม นั่งรถกันก้นบานไปเลย หมดงานนี้คงต้องหาโอกาสไปออกวิ่งลดพุงที่เพิ่มขึ้นมาตามอายุขัย แม้จะบ่นว่าอาหารไม่อร่อยแต่เราสองคนก็ยังน้ำหนักเท่าเดิม หรือจะมากกว่าเดิมไม่รู้ วัน ๆ นั่งอยู่แต่ในรถ จะว่าไปเงินที่เราจ่ายไปคุ้มไหม ?? ก็ทั้งคุ้มและไม่คุ้มแหละ เล่นนั่งรถทั้งวันแบบนี้เสียเวลาไปถึงที่หมายช้ากว่าเดิม แต่ก็นั่นแหละ..ระหว่างทางเราได้เจอะเจอชีวิตผู้คนแบบจริง ๆ ไม่ใช่แบบผ่าน ๆ ดูรูปที่ถ่ายเเป็นหลักฐานได้เป็นอย่างดี เพราะหาที่ไหนไม่ได้แล้ว
 
       งานนี้แม่บุญกดชัตเตอร์แบบไม่นับ เพราะคิดว่าจะไม่กลับมาอีก ก็แหม่..โลกนี้กว้างใหญ่ยังมีที่ให้ไปดูอีกเยอะแยะ ไม่งั้นเราจะอยู่เที่ยวทำไมกันนมนาน ถ้าจะเที่ยวแบบชะโงกทัวร์ที่เขาทำกัน ป่านนี้เราก็เผ่นกลับบ้านไปแล้ว

       ว่าแล้วเราก็ออกเดินทางกัน ๘ โมงตามเวลานัด ชอบคนพม่าอย่าง เช้า ๆ อย่างนี้การจราจรในเมืองใหญ่ย่อมจอแจเป็นธรรมดา แต่ที่เห็น ๙๐% เป็นรถจักรยาน มอเตอร์ไซค์มีบ้างเหมือนกัน แล้วก็รถยนต์ซึ่งน้อยมาก ส่วนมากเป็นรถเมล์ รถรับจ้าง อากาศเลยดี ชายพม่านุ่งโสร่งใส่เสื้อแขนยาวถีบจักรยาน บางครั้งมีเด็ก หรือผู้หญิงซ้อนท้าย ที่สำคัญทุกคนจะถือปิ่นโตขนาดเล็ก ๒ ชั้น ใส่ข้าว กับข้าวไปกินที่ ๆ ทำงาน จะหาแบบนี้ได้ที่ไหนอีก เมืองไทยเราไม่มีมานานแล้ว หิวก็แวะร้านข้างทาง ใครเอาปิ่นโตห่อข้าวจากบ้านคงถูกโห่น่าดู..เรื่องดี ๆ กลับมองว่าขี้เหนียวบ้าง ไม่เอาเพื่อนฝูงบ้าง เรื่องค่านิยมเนี่ยทำให้หลาย ๆ คนติดหนี้สินกันบานเพราะเอาอย่างคนอื่น ตามที่เห็นคนอื่นเขาทำโดยที่ไม่มองตัวเอง มองความเป็นจริงและที่สำคัญไม่ยอมรับความจริง จนก็ยอมรับว่าจนเหมือนแม่บุญ ใครจะว่ายังไงก็ช่างเขา เราไม่มีหนี้สินให้ต้องคอยหลบหน้าเจ้าหนี้ก็แล้วกัน ชีวิตนี้สุขใดไหนจะเท่า…จริงไหม๊ ??

บากาน หรือ พุกาม ดินแดนแห่งป่าเจดีย์หรือทะเลเจดีย์




                                                      ทะเลเจดีย์ที่บากานหรือพุกาม

รถขับผ่านที่แห่งหนึ่ง ดินแดงปลิวว่อน ฝุ่นคลุ้งตลอดทาง แทบไม่มีบ้านชาวบ้านเลย คงเป็นเพราะไกลจากแหล่งน้ำด้วย นาน ๆ จะเห็นบ้านสร้างด้วยไม้ไผ่สักหลัง ใกล้ ๆ กันเป็นบ่อน้ำบาดาล แต่รอบ ๆ ดูแห้งแล้งจริง ๆ อากาศร้อนอบอ้าว เรานั่งไปหลับไป ตื่นบ้างตามเสียงบีบแตรของไซ แล้วแม่บญก็เหลือบเห็นเด็กเดินกันอยู่สองสามคน บอกให้ไซจอดรถว่าจะเอาขนมให้ ไซบอกว่าจอดไม่ได้อันตราย เราไม่รู้ว่าพ่อ แม่ที่เดินตามมาห่าง ๆ จะทำอะไรนักท่องเที่ยวหรือเปล่า อย่าลืมว่าพวกเขาจนมาก ทำได้ทุกอย่าง ได้ยินแล้วก็หัวหด เลยค่อย ๆ เปิดหน้าต่างรถหย่อนขนมลงไปสามสี่ห่อ เด็ก ๆ เห็นรีบวิ่งมาแย่งกันทันที ขอให้อร่อยนะหนู ฉันทำได้ดีที่สุดแค่นี้แหละ



                                           ถนนหนทางในชนบทของพม่า

เกือบบ่ายไซจอดรถพักเครื่อง ถือโอกาสกินข้าวด้วย ร้านเล็กๆ ในเมืองเล็ก ๆ คนมองเราอีกตามเคย แต่คราวนี้มาแปลก เพราะเขาคิดว่าแม่บุญเป็นไกด์ ไซขับรถ และพานักท่องเที่ยวมาเที่ยว ว่าเข้านั่น แม่บุญสวยเหมือนสาวพม่าอีกแล้วดีใจจริง อาหารหลักของเราที่สั่งไม่พ้น ข้าวผัดสองจาน น้ำชา หรือ กาแฟ และ น้ำเปล่าหนึ่งขวด เป็นสูตรที่ไซรู้โดยไม่ต้องมีการทบทวนหลายครั้ง กินเสร็จก็เผ่น..ไม่ใช่ก็เดินทางต่อ ถ้านั่งเครื่องป่านนี้นอนตีพุงในห้องสบายไปแล้ว



                                             รถยนต์ที่เห็นก็มีแต่รถประจำทางเท่านั้น

รถคงมาไกลมาก ๆ แล้วบางช่วงมีขึ้นเขาด้วย ตอนขึ้นเขาเราเห็นฝรั่งสองคนหญิง ชาย ปั่นจักรยานขึ้นเขา แม่เจ้าโว้ย..ช่างมีความพยายามกันจริง ๆ ถ้าปั่นที่เมืองไทยยังพอว่า แต่นี่..พม่า มิเชลบอกว่าท่าทางเหมือนชาวเนเธอร์แลนด์..ท่าจะจริง ประเทศนี้พื้นที่เขาลาดต่ำกว่าระดับน้ำทะเล ไม่มีภูเขาให้ขึ้น ๆ ลง ๆ แต่ที่นี่ทั้งภูเขา ทั้งถนนที่ขุรขระ คิดผิดหรือเปล่าหนอเพื่อนที่มาถีบจักรยานกลางแดดจ้าแบบนี้ ขอให้ไปถึงที่หมายแบบลมไม่ใส่กลางทางก็แล้วกัน

 ตามรายการทัวร์ เราจะพักที่นี่สองคืนสามวัน แล้วย้อนกลับทางเดิมเพื่อไปย่างกุ้งและกลับเมืองไทย แค่คิดว่าจะต้องนั่งรถกลับทางเดิมก็เหนื่อยแล้ว ตกลงกันแล้วนี่ ทำไงได้ อ้อยเข้าปากช้างแล้ว ป่านนี้กลายเป็นอึช้างกองโตแล้วกระมัง และแล้วเราสองคนก็มาถึงโรงแรมที่พัก ที่อยู่ที่บากานใหม่..เขามีเมืองเก่ากับเมืองใหม่ เราผ่านเมืองเก่ามาแล้ว แต่ที่แน่ ๆ โรงแรมนี้ไกลจากชุมชนจัง เพราะมีบ้านเรือนใกล้ ๆ ไม่กี่หลัง เราลงรถแล้วไซก็พาเข้าไปในตัวโรงแรมซึ่งเป็นเพียงบ้านชั้นเดียว แต่มีบริเวณกว้าง เลยสร้างห้องพักอีกสามสี่ห้องถัดออกไป ที่พักใหม่ใช้ได้ สะอาดพอสมควร แต่ติดที่ว่ามันไกลจากตัวเมือง..ว่าแล้วแม่บุญก็เริ่มรายการสัมภาษณ์

แม่บุญ…เข้าไปในเมืองไกลไหม ??







เจ้าของโรงแรม…ไม่ไกลเท่าไหร่..แต่ต้องนั่งรถไป เพราะไกลเหมือนกัน


แม่บุญ….อ้าว..แล้วบอกว่าไม่ไกล มันยังไง แล้วถ้าเราจะอยากดูบ้านเมืองตอนกลางคืนทำไงจ๊ะ ? เรียกไซ..


มิเชลบอกว่า ..เกรงใจไซ ขับรถเหนื่อยมาทั้งวัน อยากเดินดูเองมากกว่า


แม่บุญ..ไซ..มีโรงแรมอื่นที่มีคอนแท็กกับบริษัทเธอหรือเปล่า เอาที่อยู่ในเมืองหน่อย


ไซ..ผมไม่รู้ เดี๋ยวจะโทรถามเจ้านายให้ ว่าแล้วก็คุยภาษาพม่ากันยืดยาว


เจ้าของโรแรม..ไม่มีที่อื่นที่ดีกว่านี้อีกแล้ว อีกอย่างเขาจองมาแล้วก็ต้องพัก ไม่งั้นก็ต้องจ่ายเงินเหมือนเดิม


แม่บุญ…ฉันทำงานเป็นผู้จัดการห้องพักโรงแรมมาสิบกว่าปี รู้ดีว่าคอนแท็กมันเป็นยังไง บริษัทเขาไม่แฟร์ที่ไม่ให้เราเลือก ทั้ง ๆ ที่เรามีสิทธิ์เลือกตามที่เราต้องการ ในราคาที่เราจ่าย ตอนนั่งรถผ่านมาฉันเห็นมีป้ายโฆษณาโรงแรมเยอะแยะ บอกว่าไม่มีได้ไง





     ถึงตอนนี้ไซเริ่มหน้าเสีย มีการโทรคุยกันอีกนานกับเจ้านาย แม่บุญกับมิเชลยืนยันที่จะขอเปลี่ยนโรงแรมเพราะเราพักตั้งสามวัน แม้ไซจะยืนยันที่จะขับรถรับ ส่งตามหน้าที่ แต่เราก็ยืนกระต่ายขาเดียวเช่นกัน ในที่สุดเราก็ขึ้นรถไปหาโรงแรมใหม่ เล่นเอาเจ้าของโรงแรมหัวเสีย โทรไปต่อว่าเจ้านายของไซยืดยาว .. แม่บุญ..จะยอมก็ต่อเมื่อเห็นว่าเขาไม่เอาเปรียบเราเกินไป แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เริ่มเอาเปรียบ แม่บุญก็มีวิธีจดการขั้นเด็ดขาดเช่นกัน เงินของแม่บุญหามาลำบาก จะเอามาทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ แบบไม่รู้คุณค่าของเงินได้ไง อีกอย่างเราพักมาสิบกว่าวัน ผ่านมาหลายเมือง พอจะรู้ว่าแต่ละแห่งที่เราพักราคาไม่แพงเลย ยิ่งมีคอนแท็กกับบริษัททัวร์ ราคายิ่งถูก เงินที่เราจ่ายไปสองคนพันกว่าดอลล่าร์ มันน่าจะได้อะไรที่ดีกว่านี้สิ…



        ไซ..ขับรถพาเราสองคนตระเวณหาโรงแรมที่พักหลายแห่ง จนมาถึงแห่งสุดท้ายที่ท่าทางดีหน่อย ห้องกว้าง ห้องน้ำสะอาดพอใช้ได้นับว่าดีกว่าที่อื่น ๆ ที่ผ่านมา หลายแห่ง ไซ..ดูจะโล่งอกกับการตัดสินใจของเราสองคน แม้จะบ่นกลาย ๆ ว่าเจ้านายบอกว่าที่นี่ราคาแพงกว่าที่อื่น ๆ ที่เขามีคอนแท็กกัน ทำไงได้หล่ะในเมื่อแต่ละแห่งที่พาไปดู ทั้งห้องเก่าและไม่สะอาด บางทีมีแมลงสาบออกมาสวัสดีเราด้วย จะว่าเรื่องมากก็ต้องยอมรับ..



     ไซ..มีเบี้ยเลี้ยงค่าที่พัก และอาหารต่อวัน แต่ไซเลือกที่จะกินซุปกับนอนบ้านเพื่อนบ้าง โรงแรมถูก ๆ เก่า ๆ บ้าง เพราะจะเก็บเงินเอาไว้เลี้ยงลูกเมีย ถึงได้ผอมแห้งแรงน้อย บางครั้งเราสองคนก็เลี้ยงข้าวเขาตอบแทนที่ขับรถให้เรานั่งทั้งวัน แม้เขาจะได้เงินเดือนแต่ก็น้อยเหลือเกิน




              ค่ำนั้นเราสองคนเดินเล่นจากโรงแรมไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง จัดได้สวยงาม สำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยว มีการจุดเทียนให้แสงสว่างตามโต๊ะดูโรแมนติคดีอีกต่างหาก ไซ.ขอไปกินที่อื่นตามเคย มิเชลสั่งเนื้อแพะใส่เครื่องเทศ มันฝรั่ง หน้าตาออกมาเหมือนมัสมั่นไม่มีผิด แม่บุญกินไก่กับเครื่องเทศ กับผัก แล้วยังมีเบียร์พม่าด้วย รสชาติอาหารไม่เลว นับว่าดีที่สุดตั้งแต่มาเที่ยวพม่า หลังอาหารเราเดินเล่นย่อยอาหารไปในตัวจนถึงที่พัก และหลับเพราะความเหนื่อยจากการนั่งรถทั้งวัน ..พรุ่งนี้เราจะเริ่มตระเวณเที่ยวเจดีย์เก่าแก่ที่มีมากมายนับพันองค์กัน ฝันของแม่บุญเป็นจริงอีกแล้ว…


                                              บ้านสร้างด้วยไม้ไผผ่ระหว่างทาง

 



                                                     น้ำบาดาลที่ชาวบ้านเขุดบ่อไว้ใช้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น